Biblio TH / Bind and Unfold 4

 @ห้องสมุด

คำเตือน : มีการกล่าวถึงความตาย


อ่าาา ช่วยได้มากเลยครับ ! ดีจริง ๆ ที่มีรุ่นน้องที่น่ารักแบบนี้~


ดีใจทีปลอดภัยนะครับ ว่าแต่ทำไมถึงโดนชั้นหนังสือทับเอาได้ละครับ

ทาคามิเนะคุงพอมีแรงครั้งนี้เลยไม่เป็นอะไร แต่ถ้ามีแค่ผมคนเดียวคงช่วยไม่ไหวแน่ ๆ

ถึงจะไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร แต่ครั้งหน้าต้องระวังกว่านี้นะครับ?


โดนรุ่นน้องบ่นซะแล้วครับ...!เอ่อ มันไม่ใช่ว่าฉันโดนทับแบบนี้บ่อย ๆ หรอกนะครับ!

ฉันกำลังจัดหนังสือตามปกติของงานบรรณารักษ์ แต่ช่วงนี้หนังสือเก่า ๆ เกิดชื้นเพราะฝน ฉันเลยย้ายหนังสือที่สำคัญไปไว้ห้องใต้ดิน ที่ ๆ ความชื้นพอเหมาะน่ะครับ

แล้วฉันก็ขนหนังสือจากใต้ดินขึ้นมาเติมช่องว่างในชั้นหนังสือ

หรือก็คือ ฉันกำลังสลับหนังสือ นั่นแหละครับ ค่อนข้างลำบากเพราะสมาชิกบรรณารักษ์ไม่มากพอน่ะครับ


เอ่อ ก่อนหน้านั้น อะไรคือห้องใต้ดินหรอครับ?


อ่าา เป็นห้องสมุดที่อยู่ข้างล่างน่ะครับ ฉันก็รู้เพราะมีเพื่อนมาบอกฉันตอนปีที่แล้ว

และเพราะมันอยู่ใต้ดิน ก็เลยมีหนังสือเก่า ๆ ที่หายากหรือแม้แต่หนังสือหวงห้ามที่นัตสึเมะคุงสะสมไว้ น่าสนใจทีเดียวครับ

ถ้าเธอสนใจ ฉันจะพาไปดูก็ได้นะครับ

แต่ตอนนี้ฉันไม่มีแว่นตาแล้วก็มองไม่ค่อยชัดเลย แค่เดินเฉย ๆ ก็ยากแล้วตอนนี้เลยพาไปไม่ได้ครับ


อา...ที่คุณพูดไป วันนี้ไม่ได้ใส่แว่นจริง ๆ ด้วยนะครับ

เลยให้ความรู้ต่างไปสุด ๆ เลย เหมือนนักเรียนจากโรงเรียนชั้นสูงแบบนั้นเลย~


อืม คุณเหมือนพี่ชายฉันเลย


หืม ? ฉันดูเป็นแบบนั้นหรอครับ ? ฉันไม่เห็นตัวเองในกระจกตอนไม่ใส่แว่นมาซักพักแล้ว ฉันเลยจำไม่ได้แล้วล่ะครับว่าฉันดูเป็นยังไงเวลาไม่ได้ใส่น่ะ!


เฮะ ๆ ดูเท่ครับ~คุณดูดีขึ้นตอนไม่ใส่แว่นนะครับ~


แบบนั้นหรอครับ ? อุ ฉันกำลังเขินเพราะเด็กวัยรุ่นล่ะครับ!

แต่แว่นตาเป็นไอเทมนำโชคของฉัน เพราะงั้นฉันเลยไม่ค่อยอยากถอดมันออกน่ะครับ


เฮะ ๆ คุณชอบพวกการดูดวงจริง ๆ เลยนะครับ ของนำโชคแล้วก็การสวดมนต์...ขนาดปกหนังสือยังเป็นลายแบบแมนดาล่า*เลย

*(แมนดาล่าคือลวดลายศิลปะภาวนามีเกิดจากการเพิ่มรายละเอียดลงไปในรูปเรขาคณิต ช่วยในการเยียวยา สร้างความสงบนิ่งและให้ความรู้สึกสมดุล)


อ่าา ฉันได้มาจากเพื่อนเมื่อนานมาแล้วน่ะครับ มันเก่าแล้วล่ะแต่เป็นของที่มีความทรงจำอยู่ ฉันเลยทิ้งมันไม่ลงน่ะครับ


เข้าใจเลยครับ~ผมเปลี่ยนดอกไม้ที่โทโมยะคุงเคยให้เป็นดอกไม้แห้ง แล้วใช้เป็นที่คั่นหนังสือ

โทโมยะคุงเห็นมันตอนที่มาบ้านผมไม่กี่วันก่อน ผมอายมาก ๆ เลยล่ะครับ

แต่เหมือนเขาเองก็จำมันไม่ได้นะ


ฉันคิดว่าบทสนทนามันเริ่มออกทะเลไปแล้วนะ...เอ่อ อาโอบะเซมไป อย่างที่พวกเราถามไป ทำไมถึงโดนชั้นหนังสือทับได้ล่ะครับ...?

ฉันรู้สึกคาใจน่ะ เพราะงั้น...


อ๊ะ ขอโทษนะครับ อย่างที่บอกว่าฉันกำลังจัดหนังสือ

ฉันให้เพื่อนยืมแว่นไปซักพัก แบบว่า ระหว่างทำงานอยู่ก็โดนเอาไปน่ะครับ...

ฉันเลยมองไม่ค่อยเห็น ก็เลยเกิดอุบัติเหตุขึ้น

ฉันเสียหลักบนบรรไดเสริมแล้วร่วงลงมาจากชั้นหนังสือครับ...

ผลก็คือมันเอนกลับมาที่ฉัน เหมือนชั้นหนังสือมันพูดว่า 'ถึงตาฉันแล้ว' แล้วร่วงลงมาทับฉันครับ

อ๋าา นึกว่าจะตายซะแล้วล่ะ...วันนี้ฝนก็ตกหนักมาก ทุกคนเลยกลับกันไปหมดแล้วหรืออะไรประมาณนั้น---ไม่ว่าจะตะโกนเรียกให้ช่วยยังไงก็ไม่มีใครมาเลยครับ

เกือบจะยอมแพ้กับโลกนี้เพื่อไปหาความสุขในชาติหน้าแทนแล้วล่ะครับ

แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าฉันจะได้เกิดใหม่นี่นะ~หรือต่อให้เกิดใหม่ ฉันก็อาจจะเป็นแค่แมลงอะไรแบบนั้น

ยังไงบาปที่ฉันแบกรับไว้มันก็มากมายล่ะนะ


นี่! เอะอะอะไรกันน่ะ?!


เหวววอ?! อ อ อย่าทำให้กลัวสิครับ เคย์โตะคุง!

...นั่นเป็นเธอใช่มั้ยครับ!ฉันมองไม่ค่อยเห็นเลยไม่แน่ใจน่ะ! เสียงดังสนั่นเลย?! คงไม่ใช่ฟ้าผ่าใช่มั้ยครับ?


อาโอบะ...เกิดอะไรขึ้นกับแว่นแกน่ะ?


อ๋ออ ฉันให้เรย์คุงยืมไปน่ะครับ

เขาบอกว่ารู้สึกเบื่อ ๆ เพราะฝนฉันเลยแนะนำให้เขายืมหนังสือไปอ่าน

แต่เหมือนเขาจะมองไม่เห็นพวกตัวอักษรเล็ก ๆ เขาเลยเอาแว่นฉันไปด้วยน่ะครับ


แย่จังเลยนะ เจ้าแวมไพร์นั่นสร้างปัญหาให้ผู้คนเหมือนเดิมเลย

ฉันอุตส่าห์คิดว่าเขาจะเกรงใจคนรอบตัวขึ้นบ้าง แต่ดูเหมือนคนเราจะไม่เปลี่ยนกันง่าย ๆ ขนาดนั้นสินะ

เอาเถอะ ไม่เป็นไร รอที่นี่นะอาโอบะ ฉันมีแว่นสำรองเก็บไว้ที่ห้องสภา เดี๋ยวไปเอามาให้ ค่าสายตาเท่าไรล่ะ?


หืมมม....ฉันไม่แน่ใจครับ ไม่ได้ไปวัดสายตามาซักพักแล้วเลยไม่รู้น่ะครับ


เฮ้อ ถ้ามีเวลาไปดูดวงหรือปรึกษาปัญหาชีวิตอะไรเทือกนั้น อย่างน้อยก็เอาเวลาไปตรวจสายตาบ้างนะ แกเนี่ยเหลือเกินจริง ๆ 










Comments

Popular posts from this blog

Aoba Tsumugi Idol Story | The Song Spun at Blue Hour 1