Aoba Tsumugi Idol Story | The Song Spun at Blue Hour 2

 Idol Story | บทเพลงปลิวไสวเมื่อยามฟ้าคราม 2 TH


@โถงทางเดินหอพักชั้น2


Tsumugi : (...เงียบมากเลย แต่ฉันไม่แปลกใจเท่าไหร่ ก็เพราะเป็นตอนกลางคืนนี่เนอะ)

(สุดท้ายตอนนี้ฉันก็ยังตื่นอยู่ คงเพราะว่าพึ่งงีบไปสินะครับ)


(ยังไงวันนี้ก็ว่างทั้งวันอยู่แล้ว ฉันควรจะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดซักหน่อย แล้วก็คงไม่มีใครว่าอะไรถ้าฉันหลับที่นั่น)


(หื้ม เดี๋ยวนะครับ เงาตรงนั้นหรือว่า..)


Tsumugi : ---เธอจริงๆด้วย นัตสึเมะคุง

ต้องเป็นเพราะโชคชะตาแน่ๆพวกเราถึงมาเจอกันในเวลาแบบนี้


Natsume : พูดเรื่องอะไรน่ะ? มันเป็นความบังเอิญต่างหาก ผมแค่กำลังจะออกไปข้างนอก


Tsumugi : หื้ม? ทั้งที่เป็นตอนกลางคืนงั้นหรอครับ?


Natsume : เพราะแบบนั้นถึงต้องออกไปไงล่ะ ผมจะไปเก็บดอกไม้ที่บานเฉพาะตอนกลางคืนเพื่อไปทำการทดลอง

ยิ่งไปกว่านั้นนะ เซมไป ไม่ใช่ว่ามีเรื่องอะไรที่ต้องบอกผมหรอ?


Tsumugi : เรื่องที่ต้องบอก? อืม…

‘ไปดีมาดีนะครับ’?


Natsume : …(นัตสึเมะต่อยพุงเซมไปหนึ่งหมัด)


Tsumugi : โอ้ย?! ทำไมล่ะครับ?ก็นี่มันดึกแล้วนะ ก็ไม่แปลกที่ฉันจะเป็นห่วงเธอนี่ครับ?


Natsume : สิ่งที่ผมอยากได้ยินจริงๆน่ะ คือเรื่องชุดประจำตัวของนายต่างหาก

หรือจริงๆตั้งใจจะไม่บอกอะไรผมเลยทั้งๆที่นายให้โซระดูแล้ว?นายมีสิทธิ์จะทำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?


Tsumugi : อ่า...อะฮะฮะ เธอหมายถึงเรื่องนั้นเองสินะครับ 

ฉันไม่ได้เก็บเงียบเพราะตั้งใจจะให้เธอโกรธหรอกนะครับ โซระคุงดันบังเอิญไปเห็นก่อนน่ะ

ฉันตั้งใจจะให้เธอดูตอนที่มันเสร็จแล้วน่ะ นัตสึเมะคุง 


Natsume : พูดจริงหรอ?


Tsumugi : แน่นอนครับ นี่เป็นชุดพิเศษ แน่นอนว่าฉันต้องอยากให้คนพิเศษของฉันได้เห็น

อ่อ จริงด้วย---ฉันถ่ายรูปดีไซด์ชุดไว้ในโทรศัพท์...นี่ครับ ลองดูสิ


Natsume : หื้ม….ไม่เลวเลยนะ


Tsumugi : ใช่มั้ยล่ะครับ? ฉันตั้งตารอตอนที่มันเสร็จแล้วเลยล่ะครับ...ฟุฟุ



Natsume : นายหัวเราะอะไรน่ะ น่าขนลุก


Tsumugi : ขอโทษครับ ฉันเผลอตัว---ฉันแค่ดีใจที่เธอใส่ใจเรื่องของฉันน่ะ

...อ่า ข้าใจแล้วล่ะ เป็นแบบนี้เองสินะ….


Natsume : อะไร? อย่าอยู่ๆก็โพล่งข้อสรุปอะไรขึ้นมามั่วๆได้มั้ย?


Tsumugi : คือว่านะครับ ของนำโชคของฉันวันนี้ก็คือจี้ แต่ในชุดประจำตัวของฉันไม่ได้มีจี้อยู่เลย ฉันเลยไม่รู้ว่าของนำโชคของวันนี้จะหมายถึงอะไร

แต่ฉันเข้าใจแล้ว...เพราะ---มันหมายถึงว่าเราจะได้มาเจอกันแบบนี้ไงล่ะครับ นัตสึเมะคุง(เพราะนัตสึเมะมักจะใส่สร้อยที่มีจี้ห้อยอยู่เสมอ) ฉันดีใจที่เราได้เจอกัน และให้เธอได้เห็นชุดของฉัน


Natsume : ช่างดูเหมาะเจาะดีจังเลยนะ แต่นี่มันเลยเที่ยงคืนมาแล้ว ใช่มั้ย? เพราะงั้นผมเกรงว่ามันไม่ใช่ไอเทมของวันนี้แล้วนี่


Tsumugi : อ๊ะ จริงด้วยครับ ถ้างั้น นัตสึเมะคุง ช่วยบอกฉันได้มั้ยครับว่าไอเทมนำโชคของวันนี้คืออะไร


Natsume : ทำไมถึงถามผมล่ะ? การทำนายโชคน่ะเกี่ยวข้องกับการศึกษาเบื้องลึกของอดีต อย่าหวังว่าผมจะดูให้ฟรีๆสิ


Tsumugi : ศึกษาเกี่ยวกับอดีต..


Natsume : อะไร?


Tsumugi : ไม่ครับ ไม่มีอะไร ขอโทษที่ฉันรั้งเธอไว้จนป่านนี้นะ ระวังตัวด้วยนะครับ นัตสึเมะคุง


Natsume : อืม งั้นไว้เจอกันนะ


Tsumugi : (...เรียนรู้เกี่ยวกับอดีต งั้นหรอ? ไม่ว่าฉันจะพยายามไม่สนใจมันเท่าไหร่ สุดท้ายอดีตก็คือส่วนหนึ่งของสิ่งที่ฉันเป็นในตอนนี้…)


(เพื่อจะเห็นจุดเริ่มต้นของตัวเอง...คงจะดีที่สุดถ้าฉันกลับไปยังที่ๆทุกอย่างเริ่มต้น)

((ตรงนี้เซมไปใช้คำพูดประมาณว่า เพื่อจะเห็นแสงในรุ่งเช้าที่ส่องเข้ามาในชีวิต อะไรประมาณนั้นล่ะค่ะ เลยแปลว่าเป็นจุดเริ่มต้น))


@หน้าสถานีรถไฟ ในเย็นวันเดียวกัน


Sora : HaHa~♪ เซมไปปรากฎตัวล่ะครับ♪


Tsumugi : โซระคุง อันสุจัง พวกเธอออกไปข้างนอกด้วยกันมาหรอครับ?


Sora : HiHi~♪โซระไปทำงานกับอันสุ พึ่งกลับมาน่ะ

เซมไป ดูแจ่มใสจังเลยน้า แล้วก็มี ‘สี’ ที่สวยยยยยสุดๆเลยด้วย~ มีอะไรดีๆงั้นหรอครับ?


Tsumugi : ใช่ครับ อันที่จริง ฉันกลับไปที่ตึกที่ตั้งโรงเรียนฝึกไอดอลสมัยเด็กของฉันน่ะ


ตึกนั้นกำลังจะปรับปรุงใหม่ เพราะงั้นมันไม่เหลืออะไรแล้วล่ะ แต่พอฉันอธิบายสถานการณ์ให้ผู้ดูแลที่นั้น เขาก็ยอมให้ฉันเข้าไปดูน่ะครับ

พวกของมีค่าก็โดนยกออกไปหมดแล้ว แทบจะไม่เหลืออะไรเลยจริงๆล่ะครับ แต่ก็ยังมีภาพที่ฉันวาดที่แปะไว้บนผนัง เพราะงั้น---มันทำให้ฉันนึกขึ้นได้นะครับ


Tsumugi : ..อันสุจัง อาจจะช้าไปหน่อยที่ฉันจะมาบอกป่านนี้ แต่จะเป็นอะไรรึเปล่าถ้าฉันขอแก้ดีไซด์ชุดประจำตัวนิดหน่อยน่ะครับ?


แค่อย่างเดียว...ฉันยินดีไม่ว่าเธอจะเอาไอเดียนี้ใส่ตรงส่วนไหนของชุดก็ตาม---อาจจะเป็นชายเสื้อโค้ทหรืออย่างอื่น---แต่ฉันอยากให้เหมือนว่าชุดของฉันมีปีกครับ


ภาพวาดที่ฉันเห็นบนกำแพงมันเป็นภาพอนาคตที่ตัวฉันในตอนนั้นใฝ่ฝัน

เป็นภาพของฉัน อาโอบะ สึมุกิ ที่ยืนเด่นอยู่บนเวทีในฐานะไอดอล


เส้นทางของฉันราวกับได้ถูกขีดเอาไว้แล้ว แต่...ตอนที่ยังเด็ก ฉันเองก็จินตนาการถึงตัวเองที่โบยบินในฐานะไอดอล


ในฐานะของนกสีฟ้าแห่งความสุข ฉันอยากจะบินสูงขึ้น และสูงขึ้น เพราะงั้น ได้โปรด...มอบปีกให้กับฉันทีนะครับ?


Sora : อันสุพยักหน้าล่ะ~โซระตื่นเต้นที่จะได้เห็นตอนมันเสร็จสุดๆเลยครับ!


เซมไป โซระเองก็อยากจะโบยบินไปกับเซมไป เขาอยากจะร่ายเวทย์เหนือท้องฟ้า แล้วก็ทำให้โลกทั้งไปเป็นสีรุ้งเปล่งประกายเลยล่ะ!


โซระเชื่อว่าทั้งเขาแล้วก็เซมไปกับชิโชว~สามารถแต่งแต้ม ‘สี’ แห่งความสุขให้โลกนี้ไปด้วยกันได้!


HaHiHuHeHo~♪


Tsumugi : ใช่ครับ...เธอพูดถูก ถ้าเป็นพวกเราสามคน มันจะเป็นไปได้แน่นอนครับ


ช่วงชีวิตที่ผ่านมาของฉัน เหมือนกับเดินอยู่ในความมืด แต่เหล่าคนสำคัญก็เข้ามาส่องสว่างเส้นทาง---ส่องสว่างอนาคตของฉันครับ


ฉันเองก็อยากจะทำแบบเดียวกันครับ อยากจะส่องสว่างเพื่อใครซักคน อยากจะเป็นแสงยามรุ่งสางของใครซักคน

อันสุจัง เพราะแบบนั้นฉันแทบจะอดใจรอเห็นชุดประจำตัวของฉันไม่ไหวเลยล่ะ

Comments

Popular posts from this blog

Aoba Tsumugi Idol Story | The Song Spun at Blue Hour 1