Biblio TH / Bind and Unfold 7

 @ห้องใต้ดิน


เออ~....ฉันมีคำถามนิดหน่อยน่ะครับ หนังสือเล่นมีตอนต่อใช่มั้ยครับ...?
ตอนเด็ก ๆ ฉันชอบเรื่องนี้มาก เลยอยากอ่านมาตลอดเลยล่ะ...



เล่มไหนหรอครับ?

อ๋ออ...ขอโทษด้วยนะครับแต่นักเขียนท่านนี้เสียชีวิตไปแล้ว เพราะงั้นเลยเป็นซีรี่ย์ที่ไม่มีตอนต่อครับ

เมื่อก่อนฉันก็เคยอ่านเหมือนกัน มันตัดจบได้เหมาะเจาะพอดีเลยใช่มั้ยครับ? ฉันเข้าใจดีเลยล่ะความรู้สึกที่อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้

อ๊ะ แต่ว่ามีงานเขียนของผู้ติดตามเรื่องนี้ที่เขียนตอนต่อขึ้นมาเอง ฉันพอรู้นะครับว่ามันอยู่ที่ไหน
แฟนคลับคนนั้นคงจะค้างคาใจเหมือนกับเธอเลยเขียนมันขึ้นมา

เคย์โตะคุง เคย์โตะคุง หนังสือนั่น...เธอมีหนังสือของ อาจารย์มิซึฮาโนเมะ* อยู่กับตัวใช่มั้ยครับ?
*นามแฝงที่เคย์โตะใช้ในการเขียนมังงะ



เกือบจะบอกว่า "เผาทิ้งไปแล้ว" แต่มันก็ยังอยู่ซักที่ในห้องเก็บของนั่นแหละถ้าฉันลองไปหาดู
แต่ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะ ว่ามันเทียบไม่ได้กับงานต้นฉบับ

เป็นแค่งานของมือสมัครเล่น...ไม่ได้น่าสนใจนักหรอก



เฮะ ๆ แต่ฉันคิดว่ามันเป็นงานเขียนที่ดีเลยนะครับ~ฉันชอบมันนะ



ฉันไม่ได้พอใจกับมันหรอกนะ อาจารย์มิซึฮาโนเมะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะถ่ายทอดมุมมองของนักเขียนต้นฉบับออกมาในรูปแบบมังงะ สุดท้ายเลยออกมาเป็นงานเขียนที่มีแค่ตัวอักษร แต่...

มันแสดงให้เห็น ถึงความด้อยประสบการณ์ในฐานะนักเขียน เพียงใช้ภาพเพื่อชดเชยตรงจุดนั้น

ฉันได้คำแนะนำเรื่องการเขียนจากแกมาเยอะ...อาโอบะ



? อืมม บทสนทนามันยังไงอยู่นะครับ...?



ไม่ต้องใส่ใจหรอก มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับแก แค่เรื่องในอดีตน่ะ



เฮะ ๆ อย่างที่เห็นครับทาคามิเนะคุง เคย์โตะคุงดูไม่ใช่คนแบบนั้นแต่เขาชอบแต่งเรื่องมากเลย-



อาโอบะ! หยุดพูดอะไรที่ไม่จำเป็นได้แล้ว!



อะฮะฮะ เธอไม่ต้องเขินหรอกนะครับ~



บางทีแกก็ทำให้ฉันรู้สึกอยากต่อยจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยว่าเคยเป็นเพื่อนสนิทกับเอย์จิได้ยังไง ชอบมาจี้จุดฉันเหมือนหมอนั่นไม่มีผิด

แกน่าจะมาฝึกที่วัดของฉันสักครั้ง ฉันจะได้จัดการแกโดยไม่ต้องยั้งใจ



ฉันไม่ชอบเจ็บตัวนะครับ~ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่สัตว์น่ะ เธอไม่ต้องใช้กำลังเพื่อทำให้ฉันเข้าใจหรอกนะ แค่คำพูดก็เพียงพอแล้ว



หึ พูดอะไรกับแกไปมันก็เท่านั้นแหละ



เอะเฮะ ๆ ทั้งสองคนดูเข้ากันได้ดีจังเลยนะครับ~ผิดคาดเลยล่ะ!



เห็นเป็นแบบนั้นรึ? อย่างที่เห็น หมอนี่เป็นคนประเภทที่จะทิ้งไว้คนเดียวไม่ได้ สุดท้ายฉันก็เลยต้องค่อยไล่บ่นอยู่ตลอด แค่นั้นแหละ

เราไม่ได้เป็นเพื่อนอะไรแบบนั้นหรอก



เอ๋~เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอครับ? เราก็เป็นหนอนหนังสือกันทั้งคู่มาตั้งแต่เมื่อก่อน แล้วก็มาเจอกันบ่อย ๆ ที่ห้องสมุด พวกเราเลยได้คุยกันไงครับ

แม้แต่ยืมของหรือหนังสือเล่มโปรด

ฉันแค่อยากจะมีมิตรภาพที่ผ่อนคลายแบบนั้นมาตลอดดดเลยนะครับแต่...ชีวิตคงจะไม่ได้เป็นตามที่หวังเสมอสินะครับ?



ฉันถึงคิดว่ามันน่าสนใจไง เพราะงั้นพักหลัง ๆ ก็เริ่มคิดถถึงเรื่องพวกนี้เหมือนกัน



ทั้งหมดนั้นดูมีความนัยย์จังนะครับ~เอะเฮะ ๆ ถึงแม้เราจะห่างกันแค่ไม่กี่ปี...แต่ปีสามให้ความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่จริง ๆ นะครับ



มันก็แค่สิ่งที่พวกเราแสดงออกน่ะครับ~? ยังไงพวกเราก็เป็นแค่วัยรุ่นที่เปราะบางและอ่อนไหวอยู่ดี

อย่ามองว่าพวกเราเป็นผู้ใหญ่ที่แบกรับทุกสิ่งอย่าง แล้วทำตัวตามสบายเถอะนะครับ



อย่าพูดอะไรที่มันดูน่าสังเวชสิ ชิโนะ มันไม่เป็นไร นะ? ถ้ามีอะไรที่อยากจะพูดก็พูดออกมาซะ แม้ว่ามันจะ
เป็นความมุ่งร้ายหรือเกลียดชัง ก็แสดงออกมาตามใจเถอะ

แต่ว่า อย่าตีฉันด้วยหนังสือจะดีกว่า ถ้าโดนจุดตายฉันก็คงไม่รอดแล้วหนังสือก็จะเป็นรอยด้วย แกยิ่งผลีผลามอยู่



บอกแล้วไงครับว่าผมไม่ได้ตั้งใจ จริง ๆ นะครับ!...ค-ครั้งต่อไปจะไม่พลาดครับ! ผมจะพยายาม จะทำให้ดีครับ!
เอาล่ะครับ เอ้า-ฮึบ☆



โอ้ ครั้งนี้ทำได้ดีเลยนี่ ดีมาก ดีมาก



ชิโนะคุงนี่ตั้งใจจริง ๆ เลยนะ...

อืม...ฉันควรจะทำอะไรบ้างแล้วสิ...ดูเหมือนมีแค่ฉันที่ไม่ทำอะไรทั้งที่ทุกคนกำลังพยายาม...รู้สึกแย่จังนะ...



เฮะ ๆ ถ้างั้น ช่วยฉันทีสิครับ เรากำลังจะติดบาร์โค้ดลงบนชุดหนังสือเก่าพวกนี้น่ะ



อ๊ะ ฉันชอบงานเล็ก ๆ แบบนี้ครับ...


ว่าแล้วเชียว~แค่เพราะว่าเธอตัวสูงไม่ได้หมายความว่าฉันควรจะให้เธอไปทำงานที่ต้องออกแรงสินะครับ?

อ๊ะ จริงสิ...อาจจะเบี่ยงประเด็นไปสักหน่อย...ฉันพึ่งนึกได้ว่านัตสึเมะคุงให้ฉันลองคิดเกี่ยวกับไลฟ์ที่น่าหลงใหลในวันที่ฝนตกครับ

จะทำงานกันต่อไปก็ได้ แต่ฉันอยากจะลองคิดไอเดียกับพวกเธอน่ะครับ

ถ้านึกอะไรที่สามารถใช้เป็นแนวทาง ก็สามารถบอกฉันได้นะครับ

สามคนจะมีปัญญาดั่งมัญชุรศรี* ฉะนั้นแล้วสี่คนย่อมมีความคิดที่ดียิ่งกว่าแน่นอน

*พระมัญชุรศรีโพธิสัตว์ อัครสาวกเบื้องซ้ายของพระศากยมุนีพุทธเจ้าจากศาสนาพุทธนิกายมหายาน



ยังไงก็ตามมัญชุรศรีก็ยังเป็นพระโพธิสัตว์แห่งปัญญ-



อ่า สาระแบบนั้นไม่จำเป็นหรอกนะครับ~

ฉันรู้ว่าพวกเราอยากจะคุยกันมากกว่านี้ แต่ในที่ ๆ เต็มไปด้วยหนังสือเก่าเธอจะเผลอสูดเอาเศษฝุ่นราเข้าไปเอานะครับ

ฉันเลยไม่ค่อยอยากให้พวกเธอที่เป็นไอดอลมาช่วยเท่าไหร่เพราะปัญหาแบบนั้น แต่อยู่คนเดียวมันก็เหงาเหมือนกัน ความรู้สึกมันย้อนแย้งจังเลยนะครับ

แต่มันก็ค่อนข้างมีความสุขเลยล่ะ เพราะงั้นฉันอยากจะคิดว่าฉันตัดสินใจถูกแล้ว





Comments

Popular posts from this blog

Aoba Tsumugi Idol Story | The Song Spun at Blue Hour 1